Search

นิทรรศการ ‘ปิดสวิตช์  อะไรให้ค่าไฟแฟร์ เปิดสาเหตุ อะไรทำค่าไฟแพง’ 

ในช่วงเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา ค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นทำให้คนไทยตั้งคำถามเรื่องโครงสร้างค่าไฟและสนใจในเรื่องพลังงานมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเรื่องโครงสร้างค่าไฟฟ้า หรือโครงสร้างทางพลังงานของประเทศไทยก็เป็นประเด็นที่มีความซับซ้อนอย่างมาก อีกทั้งยังเต็มไปการผูกขาดทั้งทางข้อมูล แนวคิด และอำนาจในการวางแผนตัดสินใจจากภาครัฐ 

ขณะเดียวกันในแต่ละปี ภาครัฐก็จะมีแคมเปญรณรงค์ให้ประชาชนประหยัดไฟเพื่อช่วยลดค่าไฟในแต่ละเดือน ปรับแอร์อุณหภูมิ 26 องศา ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED รวมไปถึงการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันปิดไฟ 1 ชั่วโมงในวัน Earth Hour หรือวันปิดไฟเพื่อโลก โดยในปีนี้ตรงกับวันที่ 23 มีนาคม 

แต่นั่นคือหนทางที่จะทำให้เราจ่ายค่าไฟถูกลงอย่างยั่งยืนจริงหรือเปล่า?

คำถามนี้นำมาสู่การจัดนิทรรศการ ‘ปิดสวิตช์  อะไรให้ค่าไฟแฟร์ เปิดสาเหตุ อะไรทำค่าไฟแพง’ โดยกลุ่ม JustPow อันเป็นการร่วมกันขององค์กรที่ทำงานในด้านข้อมูล องค์ความรู้ การสื่อสารในด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ทั้ง Data Hatch, Epigram, Greenpeace Thailand, JET in Thailand และ Rocket Media Lab ระหว่างวันที่ 19-24 มีนาคม 2567 เวลาทำการ: 10.00 – 20.00 น. ณ ชั้น L หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร 

โดยในนิทรรศการนี้จะเปิดให้เห็นถึงสาเหตุว่าอะไรที่ทำค่าไฟในประเทศไทยนั้นมีราคาแพง ผ่านข้อมูลในแต่ละชุด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างค่า Ft ในบิลค่าไฟ ที่สุดท้ายแล้วกลายมาเป็นกลไกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการันตีผลกำไรให้ผู้ผลิตไฟฟ้า แล้วผลักภาระมายังผู้บริโภค การเซ็นสัญญาโรงไฟฟ้าเพิ่มทั้งๆ ที่กำลังไฟฟ้าที่มีนั้นเกินพอจนทำให้โรงไฟฟ้าที่มีอยู่แล้วไม่ต้องเดินเครื่องเต็มศักยภาพ เพราะเราใช้ไฟไม่ถึง แต่ประชาชนคนไทยกลับจะต้องจ่ายค่าไฟแพงขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงสาเหตุที่ทำให้พลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์ที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ยังไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ 

และในนิทรรศการนี้ยังเชิญชวนให้ผู้ที่เข้ามาชมนิทรรศการร่วมตัดสินใจด้วยตัวเองหลังจากที่ได้อ่านและทำความเข้าใจในแต่ละประเด็นว่าอะไรทำให้ค่าไฟแพงแล้วว่า คุณจะเลือก ‘ปิด’ หรือ ‘เปิด’ อะไร เพื่อทำให้ค่าไฟเป็นธรรมสำหรับทุกคน ผ่านระบบอินเตอร์แอคทีฟในรูปแบบสวิตช์ไฟที่ติดตั้งอยู่ในแต่ละบอร์ดข้อมูลในนิทรรศการ 

รวมไปถึงเกมสนุกๆ กับบอร์ดค่าไฟฟ้าในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟที่จะชวนให้ผู้ที่เข้ามาชมนิทรรศการร่วมเล่นด้วยการปิดสวิตช์ไฟในแต่ละหัวข้อดูว่าสิ่งเหล่านั้นจะช่วยให้ค่าไฟของคุณลดลงมากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น การปิดไฟ 1 ชั่วโมงตามแคมเปญวัน Earth Hour หรือการสัญญาซื้อขายโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่เพิ่ม อะไรที่จะทำให้ค่าไฟของคุณถูกลงได้มากกว่ากัน 

นอกจากนี้ ในวัน Earth Hour ซึ่งตรงกับวันที่ 23 มีนาคม 2567 ยังมีการจัดเสวนา “ปิด-เปิดสวิตช์ โครงสร้างค่าไฟให้แฟร์และโปร่งใส ประชาชนต้องทำอย่างไร”  ในเวลา 14.00-16.00 น. ที่ชั้น L หอศิลปกรุงเทพฯ เพื่อพูดคุยถึงประเด็นปัญหาเรื่องโครงสร้างและนโยบายทางพลังงานในประเทศไทยที่ส่งผลให้ค่าไฟแพงและไม่เป็นธรรม อุปสรรคและความท้าทายในการขับเคลื่อนประเด็นเรื่องพลังงงานในประเทศไทย ทั้งในแง่ข้อมูลข่าวสารหรือการรณรงค์ในประเด็นต่างๆ ไปจนถึงทางออกของประชาชนว่าจะสามารถเรียกร้อง ผลักดันอะไรได้บ้าง จะต้องปิดหรือเปิดสวิตช์อะไร เพื่อจะทำให้ค่าไฟนั้นเป็นธรรมสำหรับทุกคน

โดยมีผู้ร่วมเสวนาคือ สฤณี อาชวานันทกุล หัวหน้าคณะวิจัย Fair Finance Thailand, จริยา เสนพงศ์ หัวหน้างานรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน กรีนพีซ ประเทศไทย, กรรณิการ์ แพแก้ว นักสื่อสารภาคพลเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี, ณัฐพงศ์ เทียนดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท SpokeDark จำกัด และดำเนินรายการโดย พีระพงษ์ เตชะทัตตานนท์ นักจัดการด้านข้อมูลและงานสื่อสาร Data Hatch

รับชมได้ที่ เสวนา ‘ปิด-เปิดสวิตช์ โครงสร้างค่าไฟให้แฟร์และโปร่งใส ประชาชนต้องทำอย่างไร’ (youtube.com)

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

ข้อสังเกตจาก JustPow ต่อคำชี้แจงของ สนพ. กรณีโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน

จากการที่ภาครัฐมีการลงนามรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน รอบแรก  5,200 เมกะวัตต์ เพิ่มอีก 3 สัญญา ในวันที่

รมว.พลังงานแจง ไม่มีอำนาจชะลอเซ็นสัญญาไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบแรก

“ขอย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่อำนาจของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แต่เป็นเงื่อนไขที่กำหนดโดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2565 และรัฐมนตรีพลังงานไม่มีอำนาจใน กกพ. เลย ส่วน กฟผ. นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมีอำนาจแค่กำกับ” ศศิกานต์​ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคำชี้แจงของ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในประเด็นเรื่องโครงการซื้อไฟฟ้าหมุนเวียนรอบแรก 5,200 เมกะวัตต์ ณ วันที่ 20 เมษายน 2568 จากกรณีโครงการประมูลไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน รอบแรก 5,200 เมกะวัตต์ ที่จะมีการลงนามสัญญาซื้อไฟฟ้าในส่วนของโครงการที่ยังไม่ได้ลงนามในวันที่ 19 เมษายน ตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น โดยก่อนหน้านี้ มีโครงการที่ กฟผ. เกี่ยวข้อง 83 โครงการ และเซ็นสัญญาแล้ว 67 โครงการ และมีการเปิดเผยว่าในวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา มีการลงนามเพิ่มอีก 3 สัญญา โดยยังเหลือที่ยังไม่ได้ลงนามอีก 16 สัญญา โดยกล่าวว่าที่ต้องลงนามสัญญาซื้อไฟฟ้านั้นมาจากการที่มีเงื่อนไขกำหนดให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย […]

จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อรัฐบาลเซ็นสัญญาซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบแรก

การเซ็นสัญญาซื้อไฟจากโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน จะตามมาด้วยการที่ภาครัฐจะต้องจ่ายค่า FiT หรือเงินอุดหนุนเพิ่มเติมที่รัฐจ่ายให้กับผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน

สรุปประเด็น ‘ค่าไฟแพง’ ใน ‘อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร’  24 มี.ค. 2568

ใน ‘อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร’ วันที่ 24 มีนาคม 2568 มีการกล่าวถึงนโยบายค่าไฟฟ้าของรัฐบาลที่สำคัญไม่ว่าจะเป็น ค่าความพร้อมจ่าย โครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน แผน PDP 2024 ล่าช้า และการเซ็นสัญญารับซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนใหม่ในลาว