13 ข้อสังเกตต่อร่างแผน PDP2024

จากการที่ประเทศไทยกำลังจะมีแผน PDP ฉบับใหม่ หลังจากใช้แผน PDP2018 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 มาตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งนับเป็นแผนที่ใช้มายาวนานที่สุด ตั้งแต่ประเทศไทยมีแผน PDP มา ซึ่ง PDP เป็นแผนแม่บทที่กำหนดการลงทุนขยายระบบไฟฟ้าในประเทศไทย โดยมีการพยากรณ์การใช้ไฟฟ้าของประเทศ เพื่อนำไปสู่การวางแผนล่วงหน้าในระยะเวลา 15-20 ปีว่า ประเทศไทยจะต้องมีโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกเท่าไร ประเภทใด จะถูกสร้างเมื่อไหร่ โดยใคร และทั้งหมดนี้นี่เองที่จะนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายในการลงทุนทางด้านพลังงาน และค่าใช้จ่ายเหล่านั้นก็จะถูกส่งต่อมายังบิลค่าไฟของประชาชน 

ในขณะที่แผน PDP นั้น ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และกระเป๋าสตางค์ของประชาชนโดยตรงในนามบิลค่าไฟ แต่กลับกลายเป็นว่าร่างแผน PDP2024 กำลังจะเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ www.eppo.go.th และ Facebook page: EPPO Thailand ในวันที่ 17 มิถุนายน 2567 สำหรับภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และวันที่ 19 มิถุนายน 2567 สำหรับภาคใต้และภาคเหนือ รวมแล้วเพียง 2 วันและเปิดในระบบออนไลน์เท่านั้น 

นอกจากการจัดทำ “13 ข้อสังเกตต่อร่างแผน PDP2024” แล้ว JustPow ร่วมกับเครือข่ายองค์กรต่างๆ ทั้ง JET in Thailand, Data Hatch, Greenpeace Thailand, International Rivers, สภาองค์กรของผู้บริโภค, Epigram News, Lanner, Louder และแสงสุรีย์พาวเวอร์ ร่วมกันจัดเวทีระดมความคิดเห็นต่อร่างแผน PDP2024 พร้อมจัดทำข้อเสนอจากทุกภาคทั่วประเทศ

โดยในเวทีระดมความคิดเห็นในแต่ละภูมิภาค มาพร้อมกิจกรรมทั้งเวิร์กช็อปฐานการเรียนรู้เรื่องโครงสร้างพลังงานไทยและทำไมค่าไฟแพง เวทีเสวนา “แผนพีดีพี 2024 : สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่ควรจะเป็น” ที่ประชาชนทุกภาคส่วนแต่ละภูมิภาคจะได้ทำความเข้าใจประเด็นที่สำคัญต่างๆ ในร่างแผน PDP2024 นี้พร้อมสะท้อนถึงปัญหาในและพื้นที่และสิ่งที่อยากจะให้เป็นในอนาคตทั้งในเชิงโครงสร้างและในเชิงพื้นที่ รวมไปถึงกิจกรรมลงความคิดเห็น “แผนพีดีพี 2024 ที่อยากจะเห็น” และการทำข้อเสนอในแต่ละพื้นที่ รวบรวมความคิดเห็นจากทุกภูมิภาคของประเทศไทยเพื่อนำเสนอต่อภาครัฐ

ซึ่งจะเริ่มต้นที่ภาคตะวันออก ในวันที่ 18 มิ.ย. นี้ ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ตามมาด้วยภาคเหนือ ในวันที่ 28 มิ.ย. ที่จังหวัดเชียงใหม่ ภาคใต้ ในวันที่ 2 ก.ค. ที่จังหวัดสงขลา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่ 13 ก.ค. ที่จังหวัดอุบลราชธานี ภาคตะวันตก ในวันที่ 25 ก.ค. ที่จังหวัดสมุทรสงคราม และเวทีสุดท้ายที่ กทม. ในวันที่ 31 ก.ค. ที่หอศิลปกรุงเทพฯ

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลจะเอาเงิน Claw Back มาลดค่าไฟไปได้อีกนานเท่าไหร่

เงิน Claw Back คืออะไร? มีบทบาทอย่างไรในการลดค่าไฟฟ้า รัฐบาลจะเอาเงิน Claw Back มาลดค่าไฟไปได้อีกนานเท่าไหร่

ความวุ่นวายของโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ราคาแพงไป? ยกเลิกได้ไหม? ทำไมต้องรีบเซ็นสัญญา?

ความเป็นมาของโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และทำไมจึงมีถึงสองรอบ? โครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565

ภาคประชาชนทวงแผน PDP พร้อมเรียกร้องการร่างแผน PDP ฉบับใหม่ต้องมีตัวแทนภาคประชาสังคมและประชาชนอยู่ในคณะกรรมการร่างแผน PDP

ร่างแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า พ.ศ. 2567 (PDP2024) มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 19-23 มิถุนายน 2567

พีระพันธุ์เรียกร้องเปิดสัญญาซื้อไฟจากเอกชน และปรับสัญญาเพื่อลดภาระค่าไฟของประชาชน

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นแขกรับเชิญในรายการ ‘Behind the Bill – ผลประโยชน์ของพลังงานไฟฟ้า’ ผ่านการไลฟ์สดโดยเฟซบุ๊กเพจ ‘โอกาส Chance’ เมื่อวันพุธที่ 2 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยเปิดรายละเอียดโครงสร้างการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าที่ทำให้ประชาชนต้องแบกรับต้นทุน และแนวทางในการทำให้ค่าไฟของคนไทยถูกลง  โดยในช่วงแรกเป็นการให้ภาพและข้อมูลพื้นฐานในการปรับค่าไฟ พร้อมชี้ให้เห็นว่าแม้ค่าไฟจะลดลงแล้ว แต่ก็ยังมีความรู้สึกว่าค่าไฟแพง เนื่องจากต้องนำมาเปรียบเทียบกับค่าครองชีพ “หากดูจากตัวเลขอย่างเดียว ค่าไฟของเราที่ 4.15 บาทในช่วงต้นปี 2567 อาจดูไม่แพงเมื่อเทียบกับบางประเทศ เช่น เวียดนาม (3.16 บาท), ฟิลิปปินส์ (5.3 บาท), อินโดนีเซีย (3.16 บาท), มาเลเซีย (1.87 บาทเพราะรัฐบาลช่วยออกเหมือนค่าน้ำมัน), สิงคโปร์ (7.22 บาท), เกาหลีใต้ (4.48 บาท), และสหรัฐอเมริกา (6.12 บาท) แต่ความเป็นจริงถ้าเทียบกับค่าครองชีพและภาวะเศรษฐกิจในประเทศแล้ว ค่าไฟของเราถือว่าแพง เพราะฉะนั้น ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องมานั่งคิดว่า […]