ค่าไฟฟ้า ปี 2525-2567 และการเข้ามาของค่า FT

บิลค่าไฟที่เราจ่าย = ค่าไฟฟ้าฐาน + ค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า Ft) + ค่าบริการรายเดือน (แตกต่างตามประเภทผู้ใช้ไฟฟ้า) + ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ก่อนจะมีค่า Ft การจะขึ้นค่าไฟต้องทำผ่านมติ ครม. ซึ่งไม่มีรัฐบาลไหนอยากเสียความนิยมด้วยการเป็นคนผ่านมติ ครม. ขึ้นค่าไฟ จึงทำให้เกิดการนำค่า Ft มาใช้เป็นครั้งแรก ในปี 2535 ยุครัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน เพื่อปรับค่าไฟฟ้าทุกๆ 4 เดือนให้สะท้อนต้นทุน ทั้งยังเป็นปีเดียวกับที่มีการแก้ไข พ.ร.บ. กฟผ. เพื่อเปิดทางให้นำโรงไฟฟ้าที่ใหม่และทันสมัยที่สุดของ กฟผ. มาจัดตั้งเป็นตั้งบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่แห่งแรก และนำหุ้นมาขายให้แก่นักลงทุน ตามนโยบายการแปรรูปกิจการไฟฟ้า

แม้ว่าจุดเริ่มต้นของค่า Ft จะมีขึ้นเพื่อส่งผ่านความเสี่ยงเรื่องราคาเชื้อเพลิงที่ผันผวนไปยังผู้บริโภค แต่ตั้งแต่ตุลาคม 2548 ได้ขยายครอบคลุมต้นทุนของโรงงานไฟฟ้าแห่งใหม่ สัญญาซื้อขายก๊าซแบบไม่ใช้ก็ต้องจ่าย (take-or-pay gas contracts) ค่ารายรับไม่เป็นไปตามเป้าเนื่องจากการคาดการณ์ความต้องการไฟฟ้าที่คลาดเคลื่อน และความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ

ปัจจุบัน มีการบวกรวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกจากที่ระบุข้างต้นไว้ในค่า Ft มากขึ้นอีกโดยตอนนี้ ค่า Ft หมายถึง ค่าเชื้อเพลิงฐาน [ค่าซื้อไฟฟ้าของ กฟผ. และค่าใช้จ่ายตามนโยบายของรัฐ ที่สอดคล้องกับค่า Ft ขายปลีก จำแนกตามประเภทเชื้อเพลิง] + ค่าประมาณการซื้อไฟฟ้าจากเอกชนที่เปลี่ยนไปจากค่าไฟฟ้าฐาน [ค่าความพร้อมจ่าย (Availability Payments: AP) + ค่าพลังงานไฟฟ้า (Energy Payments: EP) + ค่าใช้จ่ายตามนโยบายของรัฐ (Policy Expense: PE) ในส่วนของโรงไฟฟ้าเอกชน] + การชดเชยกรณีหน่วยขายจริงต่ำกว่าค่าที่พยากรณ์ไว้

ค่า Ft จึงกลายเป็นกลไกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการันตีผลกำไรให้ผู้ผลิตไฟฟ้า แล้วผลักภาระและความเสี่ยงต้นทุนค่าไฟทั้งหมดไปให้ผู้บริโภคเป็นคนจ่ายแทน 

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

พีระพันธุ์เรียกร้องเปิดสัญญาซื้อไฟจากเอกชน และปรับสัญญาเพื่อลดภาระค่าไฟของประชาชน

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นแขกรับเชิญในรายการ ‘Behind the Bill – ผลประโยชน์ของพลังงานไฟฟ้า’ ผ่านการไลฟ์สดโดยเฟซบุ๊กเพจ ‘โอกาส Chance’ เมื่อวันพุธที่ 2 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยเปิดรายละเอียดโครงสร้างการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าที่ทำให้ประชาชนต้องแบกรับต้นทุน และแนวทางในการทำให้ค่าไฟของคนไทยถูกลง  โดยในช่วงแรกเป็นการให้ภาพและข้อมูลพื้นฐานในการปรับค่าไฟ พร้อมชี้ให้เห็นว่าแม้ค่าไฟจะลดลงแล้ว แต่ก็ยังมีความรู้สึกว่าค่าไฟแพง เนื่องจากต้องนำมาเปรียบเทียบกับค่าครองชีพ “หากดูจากตัวเลขอย่างเดียว ค่าไฟของเราที่ 4.15 บาทในช่วงต้นปี 2567 อาจดูไม่แพงเมื่อเทียบกับบางประเทศ เช่น เวียดนาม (3.16 บาท), ฟิลิปปินส์ (5.3 บาท), อินโดนีเซีย (3.16 บาท), มาเลเซีย (1.87 บาทเพราะรัฐบาลช่วยออกเหมือนค่าน้ำมัน), สิงคโปร์ (7.22 บาท), เกาหลีใต้ (4.48 บาท), และสหรัฐอเมริกา (6.12 บาท) แต่ความเป็นจริงถ้าเทียบกับค่าครองชีพและภาวะเศรษฐกิจในประเทศแล้ว ค่าไฟของเราถือว่าแพง เพราะฉะนั้น ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องมานั่งคิดว่า […]

5 มิถุนายน วันสิ่งแวดล้อมโลก ภาคพลังงานกับปัญหาสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย

เนื่องด้วยวันที่ 5 มิถุนายน เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก JustPow ชวนสำรวจปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากภาคพลังงานของไทย โดยเฉพาะประเด็นการพึ่งพาพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลของไทยที่ดูเหมือนว่าในอนาคตจะลดลงน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับเป้าหมายของการเดินทางไปสู่การเป็นประเทศ Net

รายงานจาก BloombergNEF ชี้ “ต้นทุนจากแสงอาทิตย์ของไทยต่ำกว่าโรงไฟฟ้าก๊าซใหม่”

รายงานชี้ ปี 2025 ต้นทุนพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ในไทยจะถูกกว่าโรงไฟฟ้าก๊าซและถ่านหินอย่างชัดเจน โดยเฉลี่ยเพียง 33-75 ดอลลาร์สหรัฐ/MWh

[ชุดข้อมูล] 17 ปี การปรับค่าไฟฟ้ากับหนี้ กฟผ.

ข้อมูลประกอบด้วยประมาณการค่า Ft สำหรับใช้เรียกเก็บในบิลค่าไฟฟ้าประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2551 - พฤษภาคม 2568 จากสูตรการคำนวณของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), ค่า Ft ที่ใช้เรียกเก็บจริงตามเอกสารเผยแพร่ ค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.), หนี้ กฟผ. จากการรับภาระส่วนต่างของค่า Ft