
ในปี 2567 สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน จัดทำร่างแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า พ.ศ. 2567-2580 (PDP2024) และมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 19-23 มิถุนายน 2567 แต่เป็นการจัดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์และแสดงความคิดเห็นทางข้อความใต้โพสต์เฟซบุ๊กและเว็บไซต์ของ สนพ. ที่ได้มีการโพสต์สไลด์ประกอบการบรรยายร่างแผน PDP2024 เท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากแผน PDP2018 ในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีการจัดเวทีสาธารณะทุกภาค ทำให้ประชาชนซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบทางตรงจากแผน PDP ทั้งในส่วนของผู้ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้า รวมถึงภาระการลงทุนผ่านบิลค่าไฟ ซึ่งทั้งหมดมาจากการกำหนดของแผน PDP การไม่ได้รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวดังกล่าวจากการประชาสัมพันธ์ที่อาจยังไม่ทั่วถึง และยังไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการให้ความคิดเห็นได้อย่างสะดวก ทั้งด้วยวิธีการให้ความคิดเห็นและข้อมูลในร่างแผน PDP2024 ที่ยากต่อความเข้าใจสำหรับคนทั่วไป
ทำให้ JustPow แพลตฟอร์มที่เป็นการรวมตัวกันขององค์กรที่ทำงานด้านข้อมูล องค์ความรู้ การสื่อสารในด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับเครือข่ายจากภาคส่วนต่างๆ รวม 13 องค์กร ร่วมกันจัดเวทีสาธารณะเพื่อระดมความคิดเห็นของประชาชนต่อร่างแผน PDP2024 ทั้ง 5 ภูมิภาค รวมไปถึงการจัดเวทีสาธารณะ “เสียงจากประชาชน 5 ภูมิภาคต่อร่างแผน PDP2024” เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อนำเสนอความคิดเห็น และเปิดผลโหวตของประชาชนทั่วประเทศต่อร่างแผน PDP2024 โดยมีตัวแทนจากประชาชนจากทั้ง 5 ภูมิภาคเข้าร่วม และในวันเดียวกัน ตัวแทนประชาชนจากทั้ง 5 ภูมิภาคได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องและตั้งคำถามถึงความเป็นไปได้ในการขยายเวลาทบทวนร่างแผน PDP2024 ถึงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานผ่านสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน โดยมีนายสาร์รัฐ ประกอบชาติ รองผู้อำนวยการ สนพ. เป็นตัวแทนมารับหนังสือ
จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลา 1 ปีแล้ว ที่ร่างแผน PDP2024 ไม่ถูกประกาศใช้ และภาครัฐเองก็ไม่เคยให้ข้อมูลความคืบหน้าของแผน PDP2024 เลยว่าอยู่ในกระบวนการหรือขั้นตอนไหนแล้วทั้งทางสาธารณะและผ่านการที่ทาง JustPow ได้ยื่นหนังสือไว้เมื่อปีที่ผ่านมา การที่ประเทศไทยต้องอยู่ในภาวะสุญญากาศทางด้านแผนพลังงานมานานหลายปี ตั้งแต่แผน PDP20218Rev1 ประกาศใช้ในปี 2563 ทำให้เกิดความเสียหายหลายด้าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจที่ภาคเอกชนและอุตสาหกรรมจำนวนมากต่างต้องเผชิญความไม่แน่นอนและขาดความมั่นใจในการลงทุน ซึ่งส่งผลให้ไทยสูญเสียโอกาสดึงดูดอุตสาหกรรมแห่งอนาคตและลดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะการแข่งขันด้านพลังงานสะอาดที่จำเป็นต่อมาตรการสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ การเปลี่ยนผ่านพลังงานสู่คาร์บอนต่ำที่ยังไม่มีแผนชัดเจน เนื่งด้วยแผนพลังงานฉับเก่าไม่สอดคล้องกับบริบทพลังงาน เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความล่าช้านี้ส่งผลให้การวางแผนการลงทุนด้านพลังงานขาดความชัดเจน นักลงทุนลังเลในการลงทุนพลังงานสะอาด ขัดกับเป้าหมาย Net Zero ของประเทศ
ล่าสุด นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มีคำสั่งสั่งให้ยกเลิก ร่าง PDP 2024 และให้จัดทำขึ้นใหม่ ภายใต้คณะกรรมการพยากรณ์และจัดทําแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ที่แต่งตั้งโดย กพช. ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ได้ลงนามในคำสั่งเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 แต่งตั้งคณะกรรมการพยากรณ์และจัดทําแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ โดยมีนายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธานกรรมการ และคณะกรรมการ คนอื่นๆ ประกอบด้วย
- เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
- เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
- เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
- ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
- รองศาสตราจารย์ ขวัญชัย ลีเผ่าพันธ์
- รองศาสตราจารย์ อนุสรณ์ ธรรมใจ
- รองศาสตราจารย์ แนบบุญ หุนเจริญ
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ปิติ เอี่ยมจ่ารูญลาภ
- นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน
- นายพรยศ กลั่นกรอง
- นายวิภู พิวัฒน์ รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า กฟผ.
- นายอธิปัตย์ บํารุง
- นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์
- นางสาวอารีพร อัศวินพงศ์พันธ์ นักวิชาการจากทีดีอาร์ไอ
- นายพงษ์ดิฐ พจนา
- นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผน (สนพ.)
- ผู้แทนส่านักงานนโยบายและแผนพลังาน เป็นกรรมการและเลขานุการ
- ผู้อ้านวยการกองนโยบายไฟฟ้า สํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
- นายศุภกร คงสมจิตต์ เป็น กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
โดยคณะกรรมการชุดนี้จะมีหน้าที่ในการจัดทำพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าในระยะยาวของประเทศ เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางแผนและกําหนดนโยบายด้านไฟฟ้าและความต้องการไฟฟ้าของประเทศ ในแผน PDP ฉบับใหม่
จากการประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการพยากรณ์และจัดทําแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศดังกล่าว จะเห็นได้ว่าไม่มีตัวแทนจากภาคประชาชนอยู่ในคณะกรรมการจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศเลย แม้ว่าก่อนหน้านี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะกล่าวไว้ว่า “แผน PDP ชุดใหม่นี้ จะสะท้อนเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งในเรื่องของการเข้าถึงพลังงานสะอาด ราคาที่เป็นธรรม และโอกาสในการผลิตไฟฟ้าในชุมชน ซึ่งจะช่วยยกระดับเศรษฐกิจฐานรากควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน”
แต่การที่ไม่มีตัวแทนภาคประชาชนอยู่ในคณะกรรมการพยากรณ์และจัดทําแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ จะทำให้แผน PDP สะท้อนเสียงของประชาชนอย่างแท้จริงได้อย่างไร อีกทั้งประชาชนเองคือผู้มีส่วนได้เสียอย่างแท้จริงจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ทั้งในฐานะผู้ใช้ไฟฟ้า และผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า การที่ไม่มีตัวแทนภาคประชาชนในคณะกรรมการพยากรณ์และจัดทําแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าแผน PDP ฉบับใหม่ที่จะออกมานั้นสะท้อนเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง และเป็นแผนที่สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างมีความหมาย