
(25 ก.ย. 2568) ที่รัฐสภา วันนี้เวลา 11.00 น. JustPow แพลตฟอร์มที่เป็นการรวมตัวกันขององค์กรที่ทำงานด้านข้อมูล องค์ความรู้ การสื่อสารในด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับกรีนพีซ ประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อนายศุภโชติ ไชยสัจ รองประธานกรรมาธิการการพลังงาน คนที่สอง ในฐานะตัวแทนคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้เข้ามาเป็นตัวกลางในการผลักดันข้อเรียกร้องของภาคประชาสังคมที่ต้องการให้มีตัวแทนของภาคประชาสังคมในคณะกรรมการร่างแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ฉบับใหม่ เพื่อให้มีความโปร่งใสและเปิดโอกาสการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง โดยความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลประกาศยกเลิกร่างแผน PDP2024 และเตรียมจัดทำแผนฉบับใหม่แทน
การยื่นข้อเรียกร้องนี้สืบเนื่องมาจากการจัดทำร่างแผน PDP2024 เมื่อปี 2567 ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น ทำให้เกิดข้อกังวลว่ากระบวนการดังกล่าวไม่ทั่วถึงและขาดการมีส่วนร่วมที่แท้จริงจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและทางอ้อม ด้วยเหตุนี้ JustPow และเครือข่าย ได้จัดเวทีสาธารณะใน 5 ภูมิภาคขึ้นเอง เพื่อระดมความเห็นของประชาชน และนำไปยื่นให้กระทรวงพลังงานพิจารณา แต่ในที่สุดแผนดังกล่าวก็ไม่ได้ถูกประกาศใช้
นายสันติชัย อาภรณ์ศรี ผู้ประสานงาน JustPow กล่าวว่า “จากการประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการพยากรณ์และจัดทําแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศดังกล่าว จะเห็นได้ว่าไม่มีตัวแทนจากภาคประชาชนอยู่ในคณะกรรมการจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศเลย การที่ไม่มีตัวแทนภาคประชาชนอยู่ในคณะกรรมการพยากรณ์และจัดทําแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ จะทำให้แผน PDP สะท้อนเสียงของประชาชนอย่างแท้จริงได้อย่างไร
“อีกทั้งประชาชนเองคือผู้มีส่วนได้เสียอย่างแท้จริงจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ทั้งในฐานะผู้ใช้ไฟฟ้า และผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า การที่ไม่มีตัวแทนภาคประชาชนในคณะกรรมการพยากรณ์และจัดทําแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าแผน PDP ฉบับใหม่ที่จะออกมานั้นสะท้อนเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง และเป็นแผนที่สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างมีความหมาย”
ข้อเรียกร้องของ JustPow และเครือข่ายประชาชนต่อ กมธ.พลังงาน ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจกระทำกิจการพิจารณาสอบหาข้อเท็จจริงผลกระทบจากการจัดหาและการใช้พลังงานโดยตรง มุ่งเน้นไปที่การสร้างกระบวนการที่มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนการจัดทำแผนฉบับใหม่ โดยมีสาระสำคัญคือ ขอให้มีการแต่งตั้งตัวแทนภาคประชาสังคม เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่เพื่อสะท้อนเสียงของผู้ใช้ไฟฟ้าอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังขอให้ กมธ. เป็นตัวกลางในการนำเสนอข้อมูลความคืบหน้าของร่างแผนต่อสาธารณะในรูปแบบที่เข้าใจง่าย และเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการนำข้อคิดเห็นของประชาชนไปสู่ผู้เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่านโยบายด้านพลังงานที่มีผลกระทบกับคนทั้งประเทศ จะถูกจัดทำขึ้นอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส
โดยข้อเรียกร้อง มีดังนี้
- ขอให้ กมธ. เรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำแผน PDP ฉบับใหม่ มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการดำเนินงาน ระยะเวลา และแนวทางในการจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ของรัฐบาล
- ขอให้ กมธ. เป็นตัวกลางในการผลักดันให้มีตัวแทนจากภาคประชาสังคมในฐานะผู้ใช้ไฟฟ้า และผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่
- ในระหว่างกระบวนการร่างแผน PDP ฉบับใหม่ ขอให้ กมธ. พลังงาน เรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำร่างแผน PDP ฉบับใหม่ มานำเสนอความคืบหน้าของร่างแผน PDP ต่อ กมธ. พลังงาน เพื่อนำเสนอต่อสาธารณะ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายต่อการจัดทำแผน PDP
- เมื่อร่างแผน PDP แล้วเสร็จ ขอให้ กมธ. เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างกระบวนการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลของร่างแผน PDP ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เพื่อสร้างการรับรู้ต่อประชาชนอย่างทั่วถึง ช่วยให้ประชาชนสามารถนำเสนอความคิดเห็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นตัวแทนในการนำข้อคิดเห็นของประชาชนไปสู่ผู้ที่มีส่วนในการจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่นี้
- เมื่อมีการประกาศใช้แผน PDP ขอให้ กมธ. พลังงานเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดทำแผน PDP มาชี้แจงและนำเสนอข้อมูลในรายละเอียดของแผน รวมถึงเหตุผลที่ใช้ประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้สาธารณะได้รับรู้ เนื่องจากเป็นนโยบายสาธารณะที่ส่งผลกับประชาชนทุกคน และขอให้ กมธ. สื่อสารและเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวให้ประชาชนได้รับรู้อย่างทั่วถึง
ขณะที่นายศุภโชติ ไชยสัจ รองประธานกรรมาธิการการพลังงาน คนที่สอง กล่าวว่า เรื่องแผน PDP เป็นประเด็นที่คณะกรรมาธิการการพลังงานติดตามมาตลอด โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่กำลังจะมีการเริ่มต้นจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่ออกมา เป็นเวลาที่สำคัญที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญ ให้ความสนใจ คอยเสนอแนะ ทักท้วง ท้วงติงในสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำให้อยู่ในร่องในรอย ปัญหาหลายด้านที่มีในอดีตจะต้องได้รับการแก้ไขในฉบับใหม่ ทั้งนี้ คาดว่าจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการได้ในไม่เกินสามสัปดาห์
โดยหลังจากนี้ภาคประชาสังคมยังจะมีการยื่นข้อเรียกร้องเพิ่มเติมไปยังกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดทำแผน PDP อีกด้วย