Search

แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

หากพิจารณาจากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่า ควรมีการสร้างโรงไฟฟ้าแบบใดขึ้นบ้าง เป็นจำนวนเท่าไร ที่ไหน โดยใคร และเมื่อไร จะพบว่า ประเทศไทยเริ่มบรรจุโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า พ.ศ. 2550-2564 (PDP 2007) ซึ่งลงนามโดยรัฐบาลคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) โดย พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ เมื่อ 19 มิ.ย. 2550 ภายใต้แผนนี้กำหนดให้มีสร้างโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ในปี 2563 และ 2564 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าโรงละ 1,000 เมกะวัตต์ รวม 4,000 เมกะวัตต์ โดยให้เหตุผลว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นทางเลือกที่จะสนองตอบความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น เพิ่มความมั่นคงด้านระบบไฟฟ้าและพลังงานของประเทศที่ไม่ควรขึ้นอยู่กับเชื้อเพลิงชนิดใดชนิดหนึ่ง และลดความเสี่ยงในการขาดแคลนเชื้อเพลิง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังจัดให้พลังงานนิวเคลียร์เป็นพลังงานสะอาดและมีส่วนช่วยลดภาวะโลกร้อน

ในแผน PDP2007 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 ซึ่งอนุมัติเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2552 ตามมติ กพช. ปรับลดกำลังผลิตไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ในปี 2563 และปี 2564 เหลือปีละ 1,000 เมกะวัตต์ ก่อนจะเพิ่มจำนวนในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2553-2573 (PDP2010) เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2553 จำนวน 5 โรง รวม 5,000 เมกะวัตต์ ในแผน PDP 2010 นี้กำหนดให้มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 10 ของกำลังผลิตทั้งหมดในระบบ เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าต่ำ และไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก

มีการทบทวนการจัดตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกครั้งหลังอุบัติเหตุโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะในญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2554 แผน PDP2010 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2 ปรับลดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เหลือ 4 โรง รวม 4,000 เมกะวัตต์ และ ครม. มีมติในวันที่ 3 พ.ค. 2554 ให้ลดสัดส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ลงจากเดิมที่กำหนดให้ไม่เกินร้อยละ 10 เป็นเหลือไม่เกินร้อยละ 5 ของกำลังผลิตทั้งหมดในระบบ โดยเลื่อนโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ออกไปอีก 3 ปี จากปี 2566 เป็นปี 2569 โดยให้เหตุผลว่า “เพื่อขยายเวลาเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยนิวเคลียร์จากบทเรียนอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่น และสร้างการยอมรับจากประชาชน” จนทำให้ในแผน PDP2010 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 จำนวนโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เหลือ 2 โรง รวม 2,000 เมกะวัตต์

ในแผน PDP2015 ยังคงนโยบายจัดสรรโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไว้ปลายแผนตามเดิม กำหนดแผนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 2 โรง รวม 2,000 เมกะวัตต์

อย่างไรก็ตาม ในแผน PDP2018 ถอดโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ออกไป โดยหันมาเน้นเชื้อเพลิงก๊าซและพลังงานหมุนเวียนเป็นหลัก และในแผน PDP 2018 ฉบับปรับปรุงครั้งนี้ 1 (แผนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน) ก็ยังคงไม่ปรากฏโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อยู่ในแผน 

ในขณะที่แผน PDP2024 ที่จะเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นเร็วๆ นี้ จากการให้สัมภาษณ์ของวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในแผน PDP ฉบับใหม่ที่จะออกมา มีการกล่าวถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก 70-350 เมกะวัตต์ในแผน โดยยังไม่ระบุจำนวนโรงและกำลังการผลิต

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง https://justpow.co/article-nuclear-pdp/

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

คนใต้ไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ พอแล้วกับโรงไฟฟ้าก๊าซ ขอโซลาร์เซลล์เต็มศักยภาพและรัฐต้องสนับสนุน

ชาวใต้เสนอว่าไม่มีความจำเป็นที่ PDP 2024 จะต้องมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

ชาวเหนือเรียกร้องปิดตำนาน ‘แม่เมาะ’ ไม่ควรมีโรงไฟฟ้าถ่านหินแล้ว

ประชาชนควรมีส่วนร่วมในแผน PDP จากระดับพื้นที่ ย้ำคำนึงถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมด้วย

CFNT เปิดผลวิจัยประเมินมูลค่าโรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิลในอนาคต และเสวนาแผน PDP 2024

โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและถ่านหินบางส่วนจะต้องปิดตัวลงก่อนสิ้นอายุทางเศรษฐกิจ เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด จนกลายเป็นสินทรัพย์สูญค่าในอนาคต (stranded assets)

โรงไฟฟ้าพลังน้ำกับความหมกเม็ดของ ‘พลังงานสะอาด’ ในร่างแผน PDP2024

ทำไม 'โรงไฟฟ้าพลังน้ำจากลาว' ในร่าง PDP2024 ถึงไม่จำเป็น