แผน PDP ขาดประสิทธิภาพ นำไปสู่การลงทุนในโรงไฟฟ้าเกินความจำเป็น

แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP) ของประเทศไทย เป็นแผนแม่บทสำหรับการลงทุนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าในประเทศ จะกำหนดว่าจะมีการสร้างโรงไฟฟ้าแบบใดขึ้นบ้าง เป็นจำนวนเท่าไร ที่ไหน โดยใคร และเมื่อไร

กระบวนการจัดทำแผน PDP สามารถแบ่งออกได้ 2 ขั้นตอน คือ 1) การพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้า โดยคณะอนุกรรมการการพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้า กระทรวงพลังงาน และ 2) การจัดทำแผน ซึ่งรับผิดชอบโดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ภายใต้กรอบแนวนโยบายกว้างๆ ของกระทรวงพลังงาน และจะต้องผ่านการพิจารณาไปตามลำดับขั้นโดยคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่มีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ผู้ให้ความเห็นชอบคือ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีคณะรัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงจากกระทรวงที่เกี่ยวข้องเป็นคณะกรรมการ ก่อนที่จะส่งให้ ครม. เห็นชอบและประกาศใช้อย่างเป็นทางการ

แม้ว่าแผน PDP เป็นแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว แต่กลับมีการปรับเปลี่ยนทุกๆ 2-3 ปี ไม่ว่าจะโดยผ่านการทบทวนแผนหรือการจัดทำแผนขึ้นใหม่

การพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าสูงสุดเป็นตัวกำหนดปริมาณโรงไฟฟ้าที่จำเป็นต่อการผลิตไฟฟ้าได้อย่างเพียงพอและรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของระบบในประเทศ แต่การพยากรณ์ที่ไม่เที่ยงตรงก็อาจจะนำไปสู่การสร้างโรงไฟฟ้าปริมาณมากเกินไปและเป็นภาระทางการเงินมหาศาล

แผน PDP ที่ขาดประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดการลงทุนเกินความจำเป็น อีกทั้งยังไม่คำนึงถึงต้นทุนที่ถูกลงเรื่อยๆ ของพลังงานหมุนเวียนอย่างแสงอาทิตย์ สุดท้ายภาระที่เกิดขึ้นก็จะตกอยู่กับผู้บริโภคทุกคนที่ต้องจ่ายค่าไฟ


หมายเหตุ มีการปรับปรุงข้อมูลเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลจะเอาเงิน Claw Back มาลดค่าไฟไปได้อีกนานเท่าไหร่

เงิน Claw Back คืออะไร? มีบทบาทอย่างไรในการลดค่าไฟฟ้า รัฐบาลจะเอาเงิน Claw Back มาลดค่าไฟไปได้อีกนานเท่าไหร่

ภาคประชาชนทวงแผน PDP พร้อมเรียกร้องการร่างแผน PDP ฉบับใหม่ต้องมีตัวแทนภาคประชาสังคมและประชาชนอยู่ในคณะกรรมการร่างแผน PDP

ร่างแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า พ.ศ. 2567 (PDP2024) มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 19-23 มิถุนายน 2567

พีระพันธุ์เรียกร้องเปิดสัญญาซื้อไฟจากเอกชน และปรับสัญญาเพื่อลดภาระค่าไฟของประชาชน

พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นแขกรับเชิญในรายการ ‘Behind the Bill – ผลประโยชน์ของพลังงานไฟฟ้า’ ผ่านการไลฟ์สดโดยเฟซบุ๊กเพจ ‘โอกาส Chance’ เมื่อวันพุธที่ 2 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยเปิดรายละเอียดโครงสร้างการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าที่ทำให้ประชาชนต้องแบกรับต้นทุน และแนวทางในการทำให้ค่าไฟของคนไทยถูกลง  โดยในช่วงแรกเป็นการให้ภาพและข้อมูลพื้นฐานในการปรับค่าไฟ พร้อมชี้ให้เห็นว่าแม้ค่าไฟจะลดลงแล้ว แต่ก็ยังมีความรู้สึกว่าค่าไฟแพง เนื่องจากต้องนำมาเปรียบเทียบกับค่าครองชีพ “หากดูจากตัวเลขอย่างเดียว ค่าไฟของเราที่ 4.15 บาทในช่วงต้นปี 2567 อาจดูไม่แพงเมื่อเทียบกับบางประเทศ เช่น เวียดนาม (3.16 บาท), ฟิลิปปินส์ (5.3 บาท), อินโดนีเซีย (3.16 บาท), มาเลเซีย (1.87 บาทเพราะรัฐบาลช่วยออกเหมือนค่าน้ำมัน), สิงคโปร์ (7.22 บาท), เกาหลีใต้ (4.48 บาท), และสหรัฐอเมริกา (6.12 บาท) แต่ความเป็นจริงถ้าเทียบกับค่าครองชีพและภาวะเศรษฐกิจในประเทศแล้ว ค่าไฟของเราถือว่าแพง เพราะฉะนั้น ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่เราต้องมานั่งคิดว่า […]

5 มิถุนายน วันสิ่งแวดล้อมโลก ภาคพลังงานกับปัญหาสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย

เนื่องด้วยวันที่ 5 มิถุนายน เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก JustPow ชวนสำรวจปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากภาคพลังงานของไทย โดยเฉพาะประเด็นการพึ่งพาพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลของไทยที่ดูเหมือนว่าในอนาคตจะลดลงน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับเป้าหมายของการเดินทางไปสู่การเป็นประเทศ Net